เส้นกับงานออกแบบตกแต่งภายใน
![]() |
เส้นกับงานตกแต่งภายใน |
- เส้นตั้ง : ให้ความรู้สึกสูงสง่า เช่น โบสถ์ วิหาร หรืออาคารที่มีเสาสูงใหญ่หลานต้นทำให้ดูแข็งแรงและน่าเกรงขาม
- เส้นนอน : ให้ความรู้สึกเงียบสงบ ราบเรียบห้องที่ใช้เส้นนอนมาก ๆ จะทำให้ดูไม่เร้าใจ โดดเดี่ยว เฉื่อยชา
- เส้นเฉียง : ทำให้รู้สึกไม่อยู่นิ่ง ว่องไว เปลี่ยนแปลง มักใช้ตกแต่งฝาผนังภายในห้องเพื่อสร้างจุดเด่งให้กับห้องของคุณ
- เส้นหยัก : หรือฟันปลา ให้ความรู้สึกสับสนวุ่นวาย แต่ก็สามารถนำไปใช้สร้งให้เกิดความรู้สึกประหลาดใจและน่าสงสัยได้ เส้นหยักยังเป็นเส้นที่สามารถชักนำสายตาได้ง่ายอีกด้วย
- เส้นโค้ง : สร้างความนุ่มนวลและความกลมกลืน ห้องที่มีเส้นตั้งและเส้นนอนมาก ๆ จะให้ความรู้สึกกระด้างซึ่งสามารถลดความกระด้างลงได้ด้วยการใช้เส้นโค้ง
รูปร่างกับงานออกแบบตกแต่งภายใน
รูปร่าง ( shape ) เกิดจากการนำเส้นตรงและเส้นโค้งมาประกอบกันจนเป็นรูป รูปร่างประกอบด้วยด้าน 2 ด้านคือ ด้านกว่างและด้านยาว เรียกว่ารูป 2 มิติ รูปร่างมีเฉพาะพื้นผิวหน้าของรูปเท่านั้น ไม่มีส่วนลึกหรือส่วนหนา รูปร่างมีลักษณะแตกต่างกันไปและเราสามารถแบ่งรูปร่างออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
- รูปร่างตามธรรมชาติ : ( Organic Shape ) คือรูปทรงที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ไก่ คน ช้าง ม้า วัว ควาย ฯลฯ เป็นต้น
- รูปร่างเรขาคณิต : ( Geometric Shape ) คือรูปร่างที่ประกอบด้วยเส้นตรงและเส้นโค้ง เช่น รูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ห้าเหลี่ยม หกเหลี่ยม ครึ่งวงกลม วงรี ฯลฯ
- รูปร่างอิสระ : ( Free Shape ) คือรูปร่างต่าง ๆ นอกเหนือจากรูปร่างตามธรรมชรติและรูปร่างเรขาคณิต
รูปทรงกับงานออกแบบตกแต่งภายใน
รูปทรง ( Form ) หมายถึงโครงสร้างของสิ่งต่าง ๆ ประกอบด้วยด้าน 3 ด้านคือ ด้านกว้าง ด้านยาว ด้านหนา เรียกว่ารูป 3 มิติ รูปทรงสามารถวัดขนาดและปริมาตรได้ และรูปทรงแบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
- รูปทรงตามธรรมชาติ : ( Organic Form ) ได้แก่รูปที่เหมือนวัตถุจริงในธรรมชาติ สามารถยึดเป็นแบบอย่างได้ เช่นรูปทรงของนกยูง ผีเสื้อ สิงโต ฯลฯ
- รูปทรงเรขาคณิต : ( Geometric Form ) ได้แก่รูปทรงสี่เหลี่ยมหรือรูปทรงเหลี่ยมอื่น ๆ รูปทรงกลม รูปทรงรี และรูปทรงเรขาคณิตอื่น ๆ
- รูปทรงอิสระ : ( Free Form ) ได้แก่รูปทรงอื่น ๆ ที่ไม่เข้าข่ายรูปทรงทั่งสองประเภทข้างต้น
พื้นผิวกับงานตกแต่งภายใน
ลวดลายกับงานตกแต่งภายใน
สีกับงานตกแต่งภายใน
สี ( color ) เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญมากสำหรับการออกแบบตกแต่งภายใน เพราะนอกจากจะสร้างความสวยงามแล้วยังก่อให้เกิดความรู้สึกได้มากมายหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานที่และสีที่ใช้
ช่วงระยะกับงานตกแต่งภายใน
คำว่า ช่วงระยะ (Space ) มีความหมายถึงระยะช่องว่างสองประเภทประเภทแรกหมายถึง ช่องว่างในตัวของวัตถุ ( Object ) เอง เรียกว่าช่วงระยะบวก ( Positive Space ) ส่วนอีกประเภทหมายถึงช่องว่างรอบตัววัตถุ เรียกว่าช่วงระยะลบ ( Negative Space ) ซึ่งช่วงระยะทั้งสองประเภทจะต้องมีความสัมพันธ์ที่เหมาะสมกันเป็นอย่างดีจึงจะทำให้การออกแบบตกแต่งภายในเครื่องเรือนและการตกแต่งได้ผลงานที่ดี เครื่องเรือนจะถูกขับเน้นให้เด่นชัดขึ้นหากจัดเนื้อที่ของรูปหรือสิ่งที่เป็นช่องว่างได้เหมาะสม การจัดวางเครื่องเรือนเต็มพื้นที่จนไม่มีที่พักสายตาเป็นวิธีการจัดห้องที่ผิด เนื่องจากเป็นการใช้เนื้อที่มากเกินความ จำเป็น
การออกแบบที่ดีจึงขึ้นอยู่กับการแสดงออกถึงรูปร่างที่ดีและการจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ผู้ออกแบบต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องเรือนกับขนาดของห้องและกิจกรรมภายในห้องนั้นเพื่อจัดวางเครื่องเรือนให้เกิดความสวยงามได้รับประโยชน์ใช้สอยเต็มที่ และสอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของผู้พักอาศัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น